ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity) คือการวัดระดับความชื้นในอากาศ โดยแสดงเป็นอัตราส่วนของปริมาณไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณไอน้ำสูงสุดที่อากาศสามารถรองรับได้ที่อุณหภูมิเดียวกัน ซึ่งค่าความชื้นสัมพัทธ์จะถูกแสดงในรูปของเปอร์เซ็นต์ (%RH) ตัวอย่างเช่น หากความชื้นสัมพัทธ์มีค่าเท่ากับ 50% หมายความว่าอากาศมีความชื้นในร้อยละ 50 ของความชื้นสูงสุดที่สามารถรับได้ในสภาวะนั้น

โดยความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมต่อภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาคุณภาพการผลิตและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน โดยทั่วไปแล้วระดับความชื้นที่แนะนำอยู่ในช่วง 40% ถึง 60% RH ซึ่งมีผลดีต่อหลายด้าน แต่หากความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศมีสูงมากกว่าระดับความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสม ก็มีโอกาสที่จะเกิดการกัดกร่อนของวัสดุในอุตสาหกรรมอย่างมาก โดยเฉพาะวัสดุโลหะ เช่น เหล็กและเหล็กกล้า ซึ่งสามารถสรุปผลกระทบได้ ดังนี้

  • การเร่งกระบวนการกัดกร่อน: ความชื้นสัมพัทธ์สูงในอากาศทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างโลหะ น้ำ และออกซิเจน ซึ่งส่งผลให้เกิดสารประกอบเหล็กออกไซด์ (สนิม) บนพื้นผิวของโลหะ การกัดกร่อนจะเกิดขึ้นรวดเร็วและรุนแรงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสัมพัทธ์สูง โดยเฉพาะเมื่อมีสารละลายเกลือในอากาศที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
  • ฟิล์มอิเล็กโทรไลต์: ความชื้นสัมพัทธ์สามารถสร้างฟิล์มอิเล็กโทรไลต์บนผิวโลหะ ซึ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ทำให้โลหะแตกตัวและปล่อยไอออน ส่งผลให้เกิดการกัดกร่อนเพิ่มขึ้น
  • การกัดกร่อนแบบไฟฟ้า-เคมี: ความชื้นสัมพัทธ์ทำให้เกิดการกัดกร่อนแบบไฟฟ้า-เคมี (Electrochemical Corrosion) ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดจากความแตกต่างของศักย์ไฟฟ้าระหว่างโลหะสองชนิด เมื่อมีความชื้นอยู่ในระบบจะทำให้การไหลของอิเล็กตรอนระหว่างโลหะทั้งสองง่ายขึ้น ส่งผลให้อัตราการกัดกร่อนเพิ่มขึ้น
  • Fretting Corrosion: ในสภาวะที่มีความชื้นสัมพัทธ์ ความชื้นสามารถทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่น ช่วยลดการเสียดสีระหว่างโลหะ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้เกิด Fretting Corrosion ซึ่งเป็นการกัดกร่อนที่เกิดจากการเสียดสีระหว่างพื้นผิวโลหะเมื่อมีแรงกระทำ
  • การออกแบบและบำรุงรักษา: การออกแบบโครงสร้างที่ช่วยลดการสะสมของน้ำและความชื้นสัมพัทธ์ได้ เช่น การใช้สันและร่องน้ำ หรือการออกแบบให้มีการระบายอากาศที่ดี เป็นวิธีหนึ่งในการลดความเสี่ยงของการกัดกร่อน นอกจากนี้ การบำรุงรักษาและตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ นับเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและลดผลกระทบจากความชื้นต่อวัสดุ

โดยรวมแล้ว ความชื้นสัมพัทธ์มีบทบาทสำคัญในการเร่งกระบวนการกัดกร่อนของวัสดุในอุตสาหกรรม การควบคุมระดับความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร ซึ่งวิธีการควบคุมระดับความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสม และได้รับความนิยมมากที่สุด คือการติดตั้งเครื่องลดความชื้นอุตสาหกรรม (Dehumidifier) ที่มีความแม่นยำสูง จะช่วยให้คุณสามารถรักษาระดับความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศได้อย่างเหมาะสมต่อการรักษาคุณภาพสินค้า วัสดุ และรวมถึงคุณภาพของเครื่องจักร เพียงแค่ตั้งระดับความชื้นที่เหมาะสมต่อพื้นที่การจัดเก็บรักษาวัสดุและสินค้าแต่ละประเภทในโรงงานอุตสาหกรรม เท่านี้คุณภาพสินค้าและวัสดุของคุณก็จะปลอดภัยไม่เสื่อมคุณภาพแล้ว

สำหรับท่านใดที่มีความสนใจเลือกซื้อเครื่องลดความชื้นสำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม ทางบริษัท สยาม เซมิตซึ จำกัด มีจำหน่ายเครื่องลดความชื้นคุณภาพสูงจากแบรนด์ ORION ให้บริการ ซึ่งสินค้าตัวนี้การันตีมาตรฐานในระดับสากล สามารถรักษาระดับความชื้นที่เหมาะสมได้อย่างอยู่หมัด เกรดเดียวกับที่โรงงานอุตสาหกรรมในญี่ปุ่นต่างไว้วางใจ สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย Tel : 082 – 721 – 5566

https://absensi.sumbarprov.go.id/file_session/gacor-terus/ https://absensi.sumbarprov.go.id/images/auto-demo/ https://absensi.sumbarprov.go.id/images/extra-gacor/ https://absensi.sumbarprov.go.id/image/super-gacor/ https://kecamatan-banjarsari.ciamiskab.go.id/-/zgacor/ https://desanatah.gunungkidulkab.go.id/assets/files/dokumen/ https://fossei.org/demo/ https://goodbet.bar/ https://bigbet.bar/