มลภาวะทางอากาศอย่าง ‘ฝุ่นละออง’ เป็นภัยใกล้ตัวที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะฝุ่นละอองแฝงตัวมากับอากาศที่เราหายใจเข้าไป โดยปะปนมากับไอน้ำ ควัน และก๊าซต่างๆ ซึ่งส่งผลโดยตรงกับการทำงานของปอดและระบบทางเดินหายใจ และหากต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศสะสมเป็นเวลานาน ก็ยิ่งส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ขณะเดียวกันปัญหาฝุ่นละอองก็ยังส่งผลต่อภาคธุรกิจอุตสาหกรรม เนื่องจากมีผลกระทบกับคุณภาพของสินค้าและสุขอนามัยของพนักงาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร ยารักษาโรค และเครื่องสำอาง ซึ่งจำเป็นที่จะต้องควบคุมคุณภาพอากาศภายในโรงงาน เพื่อให้สินค้าสะอาดและปลอดภัยก่อนถึงมือลูกค้า หรือแม้แต่ในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ต้องป้องกันสินค้าจากฝุ่นละอองและไอน้ำ เพื่อคงคุณภาพและประสิทธิภาพของตัวสินค้า
ตัวกรองอากาศ หรือ Air Filter คือนวัตกรรมที่ถูกนำมาใช้ในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยทำหน้าที่ในการดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ แล้วกรองออกมาเป็นอากาศสะอาด ดังนั้นแล้ว ตัวกรองอากาศจึงมีทั้งแบบที่ใช้งานกันโดยทั่วไปกับแบบที่ผลิตขึ้นเผื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ
อย่างนั้นแล้ว เรามาทำความรู้จัก ‘ตัวกรองอากาศ’ ทั้ง 2 แบบนี้ไปพร้อมๆ กัน
ตัวกรองอากาศทั่วไป
สำหรับตัวกรองอากาศที่ใช้งานทั่วไปนี้ เราสามารถพบเห็นได้ในรูปแบบของ ‘แผ่นกรองอากาศ’ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ถูกติดตั้งอยู่ในเครื่องปรับอากาศและเครื่องกรองอากาศ ที่ใช้กันตามบ้านและอาคารสำนักงานต่างๆ กับอีกรูปแบบหนึ่งคือ ‘ไส้กรองอากาศ’ ที่อยู่ภายในรถยนต์
- ตัวกรองอากาศในเครื่องปรับอากาศ แบ่งออกเป็น
- แผ่นกรองแบบหยาบ สำหรับทำหน้าที่ดักจับฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ถือเป็นด่านแรกในการกรองอากาศ โดยสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้
- แผ่นกรองแบบละเอียด สำหรับทำหน้าที่ดักจับฝุ่นขนาดเล็กที่หลุดรอดจากแผ่นกรองแบบหยาบในด่านแรกมาได้ ซึ่งแผ่นกรองแบบละเอียดนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก และเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศนั้นๆ เพราะหากแผ่นกรองไม่ได้คุณภาพ อากาศที่ถูกปล่อยออกมาจากเครื่องปรับอากาศก็อาจจะถูกลดทอนคุณภาพตามไปด้วย
- ตัวกรองอากาศในเครื่องกรองอากาศ แบ่งออกเป็น
- Pre-Filter หรือเรียกอีกอย่างว่า แผ่นกรองอากาศขั้นต้น ซึ่งมีหน้าที่ดักจับฝุ่นขนาดใหญ่ เช่น ฝุ่นหยาบภายในบ้าน รังแค เส้นผม ก่อนจะผ่านเข้าสู่แผ่นกรองชั้นถัดไปที่ละเอียดขึ้น
- HEPA Filter ย่อมาจาก High Efficiency Particulate Air Filter เป็นแผ่นกรองอากาศที่ผลิตจากเส้นใยไฟเบอร์กลาส ซึ่งนำมาถักทอจนมีขนาดที่เล็กมากๆ โดยมีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถกรองและดักจับสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ รวมถึงอนุภาคฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน หรือแม้แต่เชื้อแบคทีเรียและไวรัสต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศก็ไม่สามารถเล็ดลอดผ่านแผ่นกรอง HEPA Filter นี้ได้
- Carbon Filter แผ่นกรองที่มีส่วนผสมของคาร์บอนหรือถ่าน ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับมลพิษในอากาศ และกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นอาหาร กลิ่นธูป กลิ่นบุหรี่ เป็นต้น รวมถึงกลิ่นเหม็นอับต่างๆ
- ตัวกรองอากาศในรถยนต์ (ไส้กรอง)
- ไส้กรองอากาศชนิดแห้ง มีทั้งแบบที่ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ เส้นใยพืช และขนสัตว์ ซึ่งติดมาพร้อมกับรถจากโรงงาน
- ไส้กรองอากาศชนิดเปียก หรือ ไส้กรองอากาศแบบน้ำมัน เป็นไส้กรองที่ใช้น้ำมันเป็นตัวดักจับฝุ่นละออง โดยในแผ่นไส้กรองจะมีน้ำมันหล่อไว้ภายใน อากาศจะไหลผ่านไปในหม้อกรองลงสู่ด้านล่างที่มีน้ำมันขังอยู่ เศษฝุ่นละอองที่หนักกว่าจะวิ่งไปสู่น้ำมันและถูกจับเอาไว้
- ไส้กรองอากาศชนิดเคลือบด้วยสารที่มีความหนืด อย่างเช่น การพ่นด้วยน้ำมันให้แผ่นกรองอากาศเกิดความเหนียว เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการดักจับฝุ่น
ทั้งนี้ ในการเลือกซื้อตัวกรองอากาศทั้ง 3 รูปแบบนี้ ข้อพิจารณาสำคัญก็คือเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงาน ว่าสิ่งที่เลือกนั้นสามารถตอบสนองการใช้งานได้ตามที่ต้องการหรือไม่ และแน่นอนว่าในการเลือกซื้อของคุณภาพดี บางครั้งก็ต้องแลกมากับราคาที่สูงตามไปด้วย แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแล้ว ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าทีเดียว
ตัวกรองอากาศอุตสาหกรรม (Industry Air Filter)
ตัวกรองอากาศอุตสาหกรรมถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเป็นชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องกรองอากาศอุตสาหกรรม ซึ่งถูกนำมาใช้ในการปรับปรุงคุณภาพของลมภายในโรงงาน เนื่องจากลมที่ถูกปล่อยออกจากปั๊มลมอาจสะอาดไม่เพียงพอ เนื่องจากมีไอน้ำ ไอไขมัน และกลิ่นปะปนอยู่ ซึ่งเหล่านี้มักจะทำให้ระบบลมอัดมีปัญหาตามมา ดังนั้นเราต้องเลือกใช้ระบบกรองอากาศให้เหมาะกับการทำงานของระบบลม โดยเลือกจากตัวกรองอากาศ 4 ประเภทต่อไปนี้
ประเภทของตัวกรองอากาศอุตสาหกรรม
- Drain Filter (ตัวกรองน้ำ) มีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นและละอองน้ำออกจากลม เพื่อให้ได้ลมที่มีความสะอาดไม่มีเศษฝุ่นและไม่มีความชื้นปะปนอยู่
- Line Filter (ตัวกรองฝุ่นละออง) มีคุณสมบัติในการดักจับฝุ่นละออง ตั้งแต่ฝุ่นขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าไปจนถึงฝุ่นขนาดเล็กที่มากๆ จนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยตัวกรองประเภทนี้นิยมนำมาใช้ในหลายๆ อุตสาหกรรม เช่น อาหาร ยารักษาโรค เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- Mist Filter (ตัวกรองไอน้ำมัน) มีคุณสมบัติในการกรองละอองน้ำมันโดยเฉพาะ เนื่องจากอนุภาคน้ำมันเป็นของเหลว ซึ่งถึงแม้ว่าจะสามารถใช้ตัวกรองฝุ่นได้ แต่มีข้อเสียคือตัวกรองจะเกิดการอุดตันอย่างรวดเร็ว ดังนั้นแล้วตัวกรองไอน้ำมันจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
- Carbon Filter (ตัวกรองกลิ่น) มีคุณสมบัติในการกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ซึ่งจากสภาพแวดล้อมของโรงงานมักมีกลิ่นที่จัดว่าเป็นมลพิษ อย่างเช่น กลิ่นสารเคมี กลิ่นน้ำมัน กลิ่นสิ่งปฏิกูล กลิ่นน้ำเสียในระบบบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น หากไม่มีการจัดการที่ถูกต้อง ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของพนักงาน หรือในอุตสาหกรรมอาหารและยา ตัวกรองกลิ่นจะช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นเข้าไปรบกวนตัวสินค้าได้
วิธีการเลือกซื้อตัวกรองอากาศอุตสาหกรรม
พิจารณาจากประสิทธิภาพ ในข้อนี้ให้ดูที่ความสามารถในการทำงานเฉพาะรุ่น เช่น ระบบการเก็บน้ำและของเหลว ค่าการสูญเสียแรงดันลม ระบบการระบายลมเข้า-ออก เพราะปัจจัยหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องกรองอากาศรุ่นนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี
พิจารณาจากการนำไปใช้งาน เครื่องกรองอากาศแต่ละรุ่น แต่ละประเภท มาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นแตกต่างกัน เช่น คุณสมบัติในการกรองของเหลวและไอน้ำ หรือคุณสมบัติในการกรองอากาศและของแข็ง ฉะนั้นหากต้องการเครื่องกรองอากาศที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็ควรพิจารณาจากการนำไปใช้งานเป็นหลัก
พิจารณาจากความคุ้มค่า เมื่อจับคู่เครื่องกรองอากาศกับลักษณะงานที่จะนำไปใช้ได้แล้ว ก็จะทำให้สามารถตัดสินใจเลือกเครื่องกรองอากาศที่เหมาะสม ซึ่งไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ในเรื่องการทำงานที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอีกด้วย
ตัวกรองอากาศอุตสาหกรรม ORION
หากคุณกำลังมองหาตัวกรองอุตสาหกรรมคุณภาพดี การันตีด้วยมาตรฐานระดับสากล แบรนด์ ORION คือคำตอบ ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่สามารถดักน้ำ ฝุ่น น้ำมัน กลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้วัสดุคุณภาพสูงและทนทานในการผลิต ตัวบอดี้มีให้เลือกทั้งแบบอะลูมิเนียมและสแตนเลส และยังเป็นที่ยอมรับจากโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศญี่ปุ่น
ตัวกรองอุตสาหกรรมจากแบรนด์ ORION
- ตัวกรองน้ำ Drain Filter DSF-AL : ขนาด 5 ไมครอน ติดตั้งเพื่อกรองน้ำและไอน้ำที่ปะปนมากับลมอัด มาพร้อมระบบระบายน้ำออกอัตโนมัติ (Auto Drain) มีอัตราการสูญเสียแรงดันน้อย อยู่ที่ 0.005MPa หรือต่ำกว่า
- ตัวกรองฝุ่นละออง Line Filter LSF-AL : มาพร้อมระบบระบายน้ำอัตโนมัติ (Auto Drain) และเกจวัดระดับแรงดันที่มีความแม่นยำสูง สามารถกรองสิ่งสกปรกอนุภาคเล็กขนาด 1 ไมครอนได้สูงถึง 99.999 %
- ตัวกรองไอน้ำมัน Mist Filter MSF-AL : กรองน้ำมันและของแข็งอนุภาคเล็กขนาด 0.01 ไมครอนได้สูงถึง 99.999 % มาพร้อมระบบระบายน้ำอัตโนมัติ (Auto Drain) และเกจวัดระดับแรงดันที่มีความแม่นยำสูง
- ตัวกรองกลิ่น Carbon Filter KSF-AL : ช่วยกรองกลิ่นและลดปริมาณการสูญเสียคาร์บอนได้ดีกว่าตัวกรองไอน้ำมัน ด้วยขนาด 0.003 ไมครอน
ทั้งนี้ ORION เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก จำหน่ายสินค้าสำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ฟิลเตอร์ตัวกรองอากาศ (Air Filter), เครื่องทำลมแห้ง (Air Dryer), เครื่องดูดสุญญากาศ (Vacuum pump), เครื่องหล่อน้ำเย็น (Chiller), ฯลฯ มีบริการหลังการขายที่ดี และมีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำแนะนำและคำปรึกษา รวมถึงมีบริการการซ่อมบำรุงหรือตรวจสอบอายุการใช้งานโดยช่างผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย
ซื้อตัวกรองอากาศอุตสาหกรรม (Air Filter) ซื้อกับ บริษัท สยาม เซมิตซึ จำกัด
บริษัท สยาม เซมิตซึ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายตัวกรองอากาศอุตสาหกรรม (Air Filter) และสินค้าอื่น ๆ จากแบรนด์ ORION ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งตัวกรองอากาศอุตสาหกรรมจากแบรนด์ ORION การันตีคุณภาพสูง มีประสิทธิภาพในการกำจัดสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และไอน้ำ สามารถกรองอากาศได้ตรงตามมาตรฐานสากล เป็นสินค้าที่โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศญี่ปุ่นต่างให้ความไว้วางใจ ทั้งยังจำหน่ายในราคาที่สมเหตุสมผล หากท่านใดสนใจ สามารถติดต่อสอบถามทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราได้ทันที ทีมงานของเราพร้อมให้คำแนะนำและบริการคุณอย่างมืออาชีพ รับรองคุณจะได้รับความรู้ที่ถูกต้อง สามารถเลือกซื้อตัวกรองอากาศอุตสาหกรรมได้ตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งานและเหมาะสมต่อโรงงานอุตสาหกรรมอาหารของคุณอย่างแน่นอน
บริษัท สยาม เซมิตซึ จำกัด ตัวแทนจำหน่าย นำเข้า และให้บริการสินค้าแบรนด์ “ORION” ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เว็บไซต์ : https://www.siamseimitsu.co.th/air-filter/