ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องควบคุมอุณหภูมิอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิตพลาสติก อาหาร ยา อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือแพทย์ หรือเครื่องจักร “ชิลเลอร์ (Chiller)” ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์ ความเสถียรของกระบวนการ และต้นทุนพลังงานในระยะยาว
แต่เมื่อถึงเวลาตัดสินใจจัดซื้อ หลายองค์กรยังคงมองราคา chiller จากตัวเลขในใบเสนอราคา หรือใช้เพียงขนาดตันความเย็นเป็นตัวเปรียบเทียบ ทั้งที่ในความเป็นจริง ราคาชิลเลอร์ถูกกำหนดจากปัจจัยซับซ้อนกว่านั้นมาก ทั้งด้านวิศวกรรม ด้านพลังงาน ด้านสภาพหน้างาน และความเสี่ยงทางธุรกิจที่ตามมาหลังการติดตั้ง
บทความนี้จะชวนมองลึกไปกว่าราคาหน้าใบเสนอราคา เพื่อทำความเข้าใจว่าปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อราคาชิลเลอร์ในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง และจะเลือกให้คุ้มค่าที่สุดได้อย่างไร

เจาะลึก 2 ปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อ Chiller ราคาสูงและต่ำในปัจจุบัน
1.ปัจจัยด้านเทคนิคที่มีผลต่อราคาชิลเลอร์
ในเชิงวิศวกรรม ราคาชิลเลอร์ถูกกำหนดจากองค์ประกอบหลักหลายส่วน แต่ละส่วนมีผลต่อทั้งประสิทธิภาพ การใช้พลังงาน และความเสถียรในการทำงาน
1.1 ประเภทคอมเพรสเซอร์และประสิทธิภาพในสภาพโหลดจริง
คอมเพรสเซอร์เป็นหัวใจของระบบทำความเย็น ชนิดของคอมเพรสเซอร์ เช่น Reciprocating Scroll Screw หรือ Centrifugal มีผลต่อทั้งราคา ประสิทธิภาพ และการบำรุงรักษา
สิ่งที่มักถูกมองข้ามคือ ประสิทธิภาพในสภาวะ Partial Load ซึ่งคือช่วงโหลด 30 – 70% ที่โรงงานใช้งานจริงส่วนใหญ่ หากคอมเพรสเซอร์รุ่นประหยัดถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพดีเฉพาะ 100% Load แต่ประสิทธิภาพตกลงมากเมื่อโหลดต่ำ จะทำให้ค่าไฟรวมสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว แม้ราคาซื้อจะถูกกว่าในตอนต้น
1.2 ระบบ Inverter และการควบคุมพลังงาน
ระบบ Inverter เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อ Chiller ที่ราคาต่ำและสูงอย่างชัดเจน เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับทั้ง ค่าไฟ ความเสถียรของอุณหภูมิ และอายุการใช้งานของเครื่อง
หลักการของ Inverter คือ ควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์ผ่านการปรับความถี่ไฟฟ้า ทำให้เครื่อง
- ไม่จำเป็นต้องเดินเต็มกำลังตลอดเวลา
- ปรับรอบตามโหลดจริงที่ต้องการความเย็นในขณะนั้น
- ลดการเดินแบบ ON/OFF ที่ทำให้เกิดการสึกหรอและกินไฟสูง
1.3 ประสิทธิภาพของ Evaporator และ Condenser
วัสดุและรูปแบบการออกแบบของ Heat Exchanger เช่น Evaporator และ Condenser มีผลต่อทั้งราคาและประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนความร้อน เช่น
- ท่อทองแดงคุณภาพสูง ครีบระบายความร้อนที่มีการเคลือบป้องกันการกัดกร่อน
- Evaporator แบบ Shell & Tube หรือ Plate Type ที่ออกแบบให้เหมาะกับชนิดโหลดและคุณภาพน้ำ
- การเลือกขนาดพื้นที่แลกเปลี่ยนความร้อนให้เหมาะกับอุณหภูมิแวดล้อม
วัสดุเกรดสูงและพื้นที่แลกเปลี่ยนความร้อนที่เพียงพอ ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นและเครื่องทำงานสบายขึ้น แต่ทำให้ราคาสูงกว่าเครื่องที่ลดต้นทุนด้วยวัสดุหรือขนาดที่เล็กเกินไป
1.4 ระบบควบคุมอัจฉริยะ (Control System & Logic)
ระบบควบคุม Chiller ในยุคใหม่ที่ส่งผลต่อราคา ไม่ได้มีแค่การตั้งอุณหภูมิและสั่งเปิด – ปิดเท่านั้น แต่รวมถึง
- การควบคุมแบบ PID ตามสภาวะโหลดจริง
- การอ่านค่าอุณหภูมิและแรงดันแบบ Real-time
- การสั่งปรับรอบคอมเพรสเซอร์ พัดลม และปั๊มน้ำให้สัมพันธ์กัน
- ระบบแจ้งเตือนล่วงหน้า (Alarm & Warning) และการบันทึกข้อมูลเพื่อวิเคราะห์
ระบบควบคุมที่มีความฉลาดสูงขึ้นช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพด้านพลังงานและความเสถียรของกระบวนการ แต่ย่อมมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามไปด้วย
1.5 ความแม่นยำและเสถียรของอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น
ในบางอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำเพียง 1 – 2°C สามารถส่งผลต่อคุณภาพของชิ้นงานได้อย่างชัดเจน เช่น
- งานฉีดพลาสติกที่ต้องการคุมการหดตัวของชิ้นงาน
- งานแม่พิมพ์ที่ต้องการพื้นผิวเรียบและขนาดที่แม่นยำ
- งานผลิตอาหารหรือยา ที่ต้องควบคุมอุณหภูมิตามมาตรฐานเฉพาะ
ชิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ควบคุมอุณหภูมิได้ละเอียดในระดับ ±0.1–0.3°C จึงมีราคาสูงกว่ารุ่นที่ควบคุมระดับ ±1°C แต่ในหลายกรณี ส่วนต่างราคานี้เล็กน้อยเมื่อเทียบกับความสูญเสียจากของเสีย (Scrap) หรือการรีเจ็กต์งานผลิต
1.6 ระบบความปลอดภัยและความทนทาน
ระบบป้องกันต่าง ๆ เช่น Pressure Switch Flow Switch Overload Protection และการออกแบบให้มี Margin เผื่อการใช้งานจริง ล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มต้นทุนการผลิตชิลเลอร์ แต่ช่วยลดความเสี่ยงในการหยุดเครื่องแบบไม่คาดคิด และช่วยยืดอายุการใช้งานในระยะยาว
2.ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมและลักษณะการผลิตของโรงงาน
สเปกของ chiller อาจทำให้ราคามีความใกล้เคียงกัน แต่ปัจจัยด้านสภาพหน้างานทำให้ราคาและการเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมของแต่ละโรงงานแตกต่างกันไปอย่างมาก
2.1 คุณภาพน้ำหล่อเย็น
คุณภาพน้ำ เช่น ความกระด้าง ค่าความนำไฟฟ้า หรือสิ่งสกปรกที่ปนอยู่ มีผลต่อ
- การเกิดตะกรันเกาะใน Evaporator / Condenser
- การกัดกร่อนของท่อทองแดงและโลหะ
- ความถี่ในการล้างและบำรุงรักษา
โรงงานที่ใช้น้ำคุณภาพต่ำ อาจจำเป็นต้องเลือกวัสดุท่อแลกเปลี่ยนความร้อนที่ทนทานกว่า เพิ่มระบบกรอง หรือติดตั้งอุปกรณ์ดักตะกรัน ซึ่งล้วนส่งผลต่อค่าใช้จ่ายรวมของระบบชิลเลอร์
2.2 อุณหภูมิและสภาพแวดล้อมรอบพื้นที่ติดตั้ง
โรงงานในประเทศไทยต้องทำงานในสภาพอากาศร้อนจัด ความชื้นสูง และบางครั้งการระบายอากาศในห้องเครื่องอาจไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้ทำให้
- ต้องใช้ Condenser ขนาดใหญ่ขึ้น หรือพัดลมแรงดันสูง
- ต้องออกแบบระบบให้อึดและทนต่ออุณหภูมิแวดล้อมสูง ๆ
- ประสิทธิภาพโดยรวมมีแนวโน้มลดลงหากออกแบบไม่เหมาะสม
ปัจจัยนี้ทำให้การเลือกสเปกชิลเลอร์สำหรับโรงงานในเขตร้อนจำเป็นต้องระมัดระวังมากกว่าการอ้างอิงจากสเปกในสภาพภูมิอากาศอื่น
2.3 ลักษณะโหลด
โรงงานแต่ละแห่งมีลักษณะโหลดแตกต่างกัน เช่น
- โหลดคงที่ ตลอดกะการทำงาน
- โหลดแกว่งขึ้นลงตามรอบการผลิต เช่น งานฉีดพลาสติก CNC เลเซอร์
โหลดที่แกว่งแรง มักเหมาะกับระบบ Inverter ที่ปรับรอบตามความต้องการจริง ขณะที่โหลดคงที่อาจใช้เครื่อง Fixed Speed อย่างคุ้มค่าได้ หากออกแบบถูกต้องตั้งแต่ต้น
2.4 ชั่วโมงการเดินเครื่องต่อวัน
โรงงานที่เดินเครื่อง 24 ชั่วโมง ย่อมมีข้อกำหนดที่เข้มงวดกว่าระบบที่ทำงานเพียง 8 – 10 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งในแง่ความทนทาน การเลือกเกรดอุปกรณ์ และการวางระบบสำรอง (Redundancy) จึงไม่น่าแปลกที่ Chiller สำหรับงานหนักต่อเนื่องจะมีราคาสูงกว่า แต่มอบความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่าเช่นกัน
Chiller ราคาคุ้มค่าที่ Siam Seimitsu เพื่อการควบคุมคุณภาพอย่างเสถียรในโรงงานอุตสาหหกรรม
สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการมากกว่าเครื่องทำความเย็นหนึ่งเครื่อง แต่ต้องการระบบที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพงานผลิตและต้นทุนพลังงานในระยะยาว การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจทั้งด้านวิศวกรรมและบริบททางธุรกิจจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
Siam Seimitsu ให้บริการ chiller ราคาหลากหลายตามขนาดและระดับการใช้งาน ตั้งแต่เครื่องสำหรับงานเบาไปจนถึงรุ่น Heavy – Duty และระบบแบบ Inverter ประหยัดพลังงาน พร้อมทีมวิศวกรที่สามารถ
- ประเมินโหลดและสภาพแวดล้อมจริงของโรงงาน
- แนะนำสเปกที่เหมาะสม ไม่เกินความจำเป็น แต่ไม่เสี่ยงต่อปัญหาในอนาคต
- ให้คำปรึกษาเชิง Life Cycle Cost เพื่อช่วยวางแผนต้นทุนระยะยาว
- สนับสนุนด้านบริการหลังการขายและการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
เป้าหมายไม่ใช่เพียงการติดตั้งชิลเลอร์ให้ทำงานได้ แต่คือการช่วยให้ระบบทำความเย็นของโรงงานมีเสถียรภาพ ประหยัดพลังงาน และสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
การลงทุนในชิลเลอร์ที่ออกแบบเหมาะสมกับหน้างานจริง จึงไม่ใช่เพียงการซื้อเครื่องจักร แต่มันคือการลงทุนในความเสถียร คุณภาพ และต้นทุนที่ควบคุมได้ของโรงงานในระยะยาว
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.siamseimitsu.co.th/chiller/

SIAM SEIMITSU CO., LTD. is a subsidiary company from SIRIWAT CORPORATION 1976 CO., LTD. which specializes in ORION products. Siam Seimitsu is a sole distributor in Thailand.